ไวรัสคอมพิวเตอร์

ไวรัสคอมพิวเตอร์

ไวรัสคืออะไร

     ไวรัสคอมพิวเตอร์คือ Software รูปแบบหนึ่งที่มีหน้าที่ก่อกวน โฆษณา แอบดูพฤติกรรม ขัดขวาง หรือทำลายข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ ,ระบบเครือข่าย ผลจากการติดไวรัสจะทำให้คอมพิวเตอร์หรือระบบเครือข่ายทำงานต่างไปจากภาวะปรกติ เช่น ทำงานช้ากว่าเดิม, เปิดข้อมูลไม่ได้, มีภาพแปลก ๆ เสียงแปลก ๆ ออกมา, มีการส่งข้อมูลส่วนตัวจากเครื่องเราออกไป, ทำให้เครื่องเราโจมตีเป้าหมายที่ไวรัสกำหนด, เข้าสู่ระบบเครือข่ายไม่ได้ ,หรือแม้แต่ทำให้เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ได้ไวรัสส่วนใหญ่มีความสามารถในการสำเนาตัวเองไปสู่คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ โดยผ่านทางสื่อบันทึกข้อมูลหรือระบาดผ่านทางระบบเครือข่าย ซึ่งสือบันทึกข้อมูลที่ระบาดอย่างหนักในอดีตคือFloppy Disk แต่ปัจจุบันจะระบาดใน Thumb Drive หรือ Flash Drive แทนส่วนระบบเครือข่ายที่ระบาดหนักที่สุด รุนแรงที่สุด และรวดเร็วที่สุดคือ ระบบอินเทอร์เน็ท ไม่ว่าจะมีไวรัสที่ปะปนมากับ Scripts ในเว็บไซท์ ระบาดจากไฟล์ที่แนบในอีเมลล์ หรือแม้แต่ระบาดผ่านทางโปรแกรมสนทนา เช่น MSN QQ Pirch เป็นต้น

ปัจจุบันกับไวรัสข้ามโลกภายในพริบตา
     ผ่านมาเกือบ 20 ปี สิ่งที่คิดว่าสูงเกินเอื้อม กลับมีไว้ในครอบครอง สิ่งที่คิดว่าเป็นเทคโนโลยีสำหรับคนรวย กลับมีใช้กันอย่างสามัญ ตัวไวรัสก็เช่นกัน จากที่ระบาดเฉพาะแผ่น Floppy Diskกลายเป็นระบาดผ่าน ThumbDrive (Flash Drive) จากที่ระบาดจากเครื่องไปสู่เครื่อง กลายเป็นระบาดจากเครื่องไปสู่องค์กร ทั่วทุกมุมโลกในพริบตา ตัวไวรัสเองก็มีหลายรูปแบบขึ้น แต่จุดมุ่งหมายหลักส่วนใหญ่มักประสงค์ร้าย กับคอมพิวเตอร์หรือระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หากดูข่าวว่ามีไวรัสระบาดที่อเมริกาเมื่อ 5 นาทีที่ผ่านมา คุณอาจเห็นว่ามันไกล แต่ด้วยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ท ที่เชื่อมโยกคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันจากทั่วทุกมุมโลก เจ้าไวรัสที่ระบาดในอเมริกา เมื่อ 5 นาทีนั้นอาจอยู่ในเครื่องของคุณแล้วด้วย

การป้องกันไวรัส
     การป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดและได้ผลที่สุดคือปิดการติดต่อกับอุปกรณ์อื่น และปิดการใช้ระบบสื่อสารทุก ๆ ประเภท หากทำได้รับประกันว่าคุณปลอดภัยจากไวรัสอย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้ว คงทำอย่างนี้ไม่ได้ เพราะเราจำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมใหม่ ๆ ต้องบันทึกข้อมูลผ่านสื่อต่าง ๆ เราต้องต่อระบบเครือข่าย ต่ออินเทอร์เน็ทเพื่อค้นหาหรือดูข้อมูลใหม่ ๆเราสามารถป้องกันไวรัสได้อีกทางหนึ่งคือติดตั้งตัวป้องกันไวรัส ซึ่งมี 2 ประเภท คือ
1. Hardware ป้องกันไวรัส จะอยู่ในรูปแบบของ Card Antivirus คุณจะต้องติดตั้งไว้ในเครื่อง และคอยอับเดท Firmware 

ให้ใหม่อยู่เสมอ
2. Software ป้องกันไวรัส จะเป็นโปรแกรมป้องกันไวรัส แบบนี้จะได้รับความนิยม เพราะสามารถติดตั้งได้ทุกเครื่อง ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ อะไรให้ยุ่งยาก จำเป็นต้องต่อเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ท เพื่อทำการอับเดทข้อมูลป้องกันไวรัส

จากประสบการณ์การใช้โปรแกรมป้องกันไวรัส
     ได้ลองใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสหลายตัว ตั้งแต่ Mcafee, Norton, Avast, Nod, Kaspersky, Antivir, Panda, PC-Cillin ที่ประทับใจมากที่สุดคือเจ้า Avast! เพราะใช้งานดี มีระบบป้องกันตัวเอง แต่พอปลายปี 2006 ได้ติดไวรัสเข้าเลยรู้สึกว่า เอ้ Avast มันไม่ได้สุดยอดแห่งการป้องกันไวรัส จนปัจจุบันใช้ NOD ป้องกันไวรัส ใช้เพราะป้องกันชั่วคราวไม่ได้คาดหวังอะไรจากNOD มากมาย แต่ที่เห็นว่าดีที่สุดคือ Kaspersky ดูจากตัวโปรแกรมและการทำงานรู้สึกถึงความหนักแน่น เสถียร แต่หน่วงเครื่องนิด ๆ ต่างจาก NOD ตัวเล็กไม่หน่วงเครื่อง ส่วนโปรแกรมยอดนิยม พวก Norton Antivirus กับ Mcafee เป็นโปรแกรมตลาด ๆ ใช้ได้หากไม่มีโปรแกรมอื่นให้ใช้

​Reference=http://pongsawadi.ac.th/

Rate this blog entry:
เชิญร่วมงานการแข่งขันกีฬาภายใน สถาบันการศึกษาในเคร...
ความสำคัญของอาหารเช้าสำหรับเด็ก
 

กิจกรรมเร็วๆ นี้

Sorry, we currently have no events.
View All Events